CADL ขับเคลื่อน ปศพพ. ใน มมส. _๑๗: รายวิชา ๐๐๓๒๐๐๕ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง "งานมหกรรมนำเสนอฯ "ธุรกิจพอเพียง" (๓)
วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๐ ผ่านไปแล้วครับ สำหรับงานมหกรรมนำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้รายวิชา ๐๐๓๒๐๐๕ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แม้ว่าหลายอย่างจะไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ทุกประการ (ดูบันทึกเกี่ยวกับกำหนดการ ที่นี่) แต่ผม AAR ว่า เราบรรลุวัตถุประสงค์ (ดูบันทึกเกี่ยวกับความคาดหวัง BAR ที่นี่)
ผมตั้งใจจะถอดบทเรียนทั้งกระบวนการและผลลัพธ์ที่ได้เรียนรู้จากท่านวิทยากร คุณศศิพร ปาณิกบุตร ผู้อำนวยการกองติดตามประเมินผล สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ คุณสำราญ ช่วยจำแนก (อี๊ด วงฟลาย) และ คุณกวินรัฏฐ์ ยศอมรสุนทร (พี่หยวนจากละคร เฮง เฮง) ศิลปินจิตอาสา รศ.ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์ ศิลปินแห่งชาติ คุณพีรวัศ กี่ศิริ นักขับเคลื่อน "ธุรกิจพอเพียง" สู่ภาคการศึกษา รวมถึงศิลปินนิสิตจิตอาสาต่าง ๆ ที่มาร่วมงาน
คำกล่าวต้อนรับ
ผมเองไม่ชอบพิธีการและมักพยายามหลบเลี่ยงพิธีกรรมให้มากที่สุดในการทำงาน แต่หลังจากได้เห็นการทำงานของนิสิตครั้งนี้ ผมมีทัศนคติที่ดีต่อพิธีการมากขึ้น โดยเฉพาะการปักดอกไม้ใกล้ปกเสื้อด้านซ้ายของแขกที่มาเยือน และการกล่าวต้อนรับ ต่อไปนี้เป็นคำกล่าวต้อนรับที่ อาจารย์ ดร.มลฤดี เชาวรัตน์ กล่าวในวันงาน ... น่าจะมีประโยชน์บ้าง จึงขอนำมาวางไว้ครับ (ดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ)
โครงการในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เปิดโอกาสให้นิสิตได้นำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้จากการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมงานได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต
๓) ผลิตภัณฑ์และสินค้าจากนิสิตจากรายวิชา ปศพพ. และ รายวิชาการส่งเสริมผู้ประกอบการ
ปีนี้เป็นปีการศึกษาแรก ที่เราส่งเสริมให้นิสิตทดลองคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์โดยใช้วัตถุดิบในพื้นฐานชุมชน การจัดให้นิสิตได้นำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้ปีนี้จึงไม่ได้เน้นเต็มรูปแบบ แต่จัดในลักษณะตลาดนัดความรู้ และกำหนดแรงจูงใจในหลักสูตร (คะแนนบางส่วน) ให้นิสิตได้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกันและกัน
หลังจากพิธีเปิด เราวางแผนกันว่า จะให้ประธานและแขกผู้มีเกียรติได้เดินชมผลงานของนิสิตท่จัดไว้บริเวณหน้าห้องประชุม ขอเล่าด้วยภาพด้านล่างครับ
สรุป "ธุรกิจพอเพียง" ปีนี้ เราเน้นไปที่กลไกให้นิสิตได้เริ่มคิด ลองทำ และวางระบบให้ได้นำผลงานมานำเสนอแบ่งปันกัน
ในการจัดตลาดนัดยังมีปัญหาเรื่องการจัดการผู้ชมและผู้นำเสนอ การให้นิสิตจำนวนมาก มาลงทะเบียนในสถานที่หน้าห้องประชุมนั้นไม่พอประมาณเลย เราได้เรียนรู้แล้วว่าภาคการศึกษาหน้าควรทำอย่างไร
๔) การแสดงจากนิสิตจิตอาสา
พลังของจิตอาสานี่ประมาณค่าได้ยากยิ่งครับ งานใหญ่ขนาดคนร่วมงานเป็น ๑,๐๐๐ คน ทั้งนิสิต อาจารย์ และแขกผู้มีเกียรติระดับประเทศดังที่ได้กล่าวมา แต่ใช้งบประมาณเพียง ๑๖,๐๐๐ บาทเศษ ผมตีความว่า นี่คือสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านทรงสอนพวกเรา เมื่อไหร่ที่พวกเราสามัคคี สิ่งดีที่เกินความคาดหมายแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ ๒ ห่วง ๓ เงื่อนไขครบถ้วนสมดุล นำมาสู่ความสุขสำเร็จร่วมกัน
เหตุที่ประหยัดขนาดนั้นได้เพราะ ท่านวิทยากรทั้ง ๓ ท่านจาก สำนักงาน กปร. ท่านไม่ขอรับค่าวิทยากรใด ๆ การเดินทางก็จัดการของท่านเอง อาจารย์พีรวัศ กี่ศิริ ก็มาช่วยด้วยจิตอาสา ศิลปินนิสิตจิตอาสาก็ขนอุปกรณ์มาแสดงกันด้วยแรงแห่งใจล้วน ๆ ไม่มีใครต้องการค่าตอบแทนใด ๆ เลย ... สุดยอดครับ ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ ต่อไนปี้เป็นภาพบางส่วนของศิลปินจิตอาสา ครับ
รศ.ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์
คุณสำราญ ช่วยจำแนก (อิ๊ด วงฟลาย)
คุณกวินนัฎฐ์ ยศอมรสุนทร (พี่หยวน เฮง เฮง)
นิสิตจิตอาสาจากคณะวัฒนธรรมศาสตร์
นิสิตจิตอาสาจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์
กลุ่มนิสิตจิตอาสาจากวิทยาลัยดุริยางคศิปล์ มมส.
กลุ่มนิสิตจิตอาสาจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์
ผมเองไม่รู้มาก่อนว่าทุกคนจะมาร่วมกันขนาดนี้ จึงไม่ได้กำชับเรื่องประชาสัมพันธ์ให้นิสิตผู้สนใจเข้าร่วมมากนัก มุ่งตรงไปเพียงนิสิตที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชา ปศพพ. เท่านั้น อย่างไรก็ดี นิสิตบางคนที่เหมือนจะไม่เต็มใจเข้าไปชม แต่ก็นั่งชมด้วยความสนุกตลอดงาน
(โปรดติดตามตอนต่อไป... ใครอย่างได้รูปทั้งหมดคลิกที่นี่ครับ)
ผมตั้งใจจะถอดบทเรียนทั้งกระบวนการและผลลัพธ์ที่ได้เรียนรู้จากท่านวิทยากร คุณศศิพร ปาณิกบุตร ผู้อำนวยการกองติดตามประเมินผล สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ คุณสำราญ ช่วยจำแนก (อี๊ด วงฟลาย) และ คุณกวินรัฏฐ์ ยศอมรสุนทร (พี่หยวนจากละคร เฮง เฮง) ศิลปินจิตอาสา รศ.ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์ ศิลปินแห่งชาติ คุณพีรวัศ กี่ศิริ นักขับเคลื่อน "ธุรกิจพอเพียง" สู่ภาคการศึกษา รวมถึงศิลปินนิสิตจิตอาสาต่าง ๆ ที่มาร่วมงาน
คำกล่าวต้อนรับ
ผมเองไม่ชอบพิธีการและมักพยายามหลบเลี่ยงพิธีกรรมให้มากที่สุดในการทำงาน แต่หลังจากได้เห็นการทำงานของนิสิตครั้งนี้ ผมมีทัศนคติที่ดีต่อพิธีการมากขึ้น โดยเฉพาะการปักดอกไม้ใกล้ปกเสื้อด้านซ้ายของแขกที่มาเยือน และการกล่าวต้อนรับ ต่อไปนี้เป็นคำกล่าวต้อนรับที่ อาจารย์ ดร.มลฤดี เชาวรัตน์ กล่าวในวันงาน ... น่าจะมีประโยชน์บ้าง จึงขอนำมาวางไว้ครับ (ดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ)
คำกล่าวต้อนรับ
โครงการมหกรรมนำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง:
“ธุรกิจพอเพียง”
วันอังคารที่ 25 เมษายน 2560
ณ ห้องประชุมชั้น
5 อาคารคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
--------------------------------------
โดย ดร.มลฤดี เชาวรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต
เรียน เรียน ผอ.ศศิพร ปาณิกบุตร ผู้อำนวยการกองติดตามประเมินผล
สำนักคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน
กปร.) ผู้สืบสานงานสนองพระราชดำริ อาจารย์พีรวัศ กี่ศิริ นักขับเคลื่อน “ธุรกิจพอเพียง”สู่ภาคการศึกษา
คุณสำราญ ช่วยจำแนก (หรือพี่อิ๊ดวงฟลาย) และคุณกวินรัฏฐ์ ยศอมรสุนทร (หรือพี่หยวน)
ศิลปินดาราที่น้องนิสิตรู้จักกันดี
ดิฉัน มลฤดี เชาวรัตน์
รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ในนามผู้แทนนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาต้อนรับท่านในโอกาสมาเป็นวิทยากรและศิลปินจิตอาสาขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่นิสิตและบุคลากรของมหาวิทยาลัยในวันนี้
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ได้กำหนดคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ด้านคุณธรรม คือ การเป็นผู้ “ประพฤติดี
มีวินัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง” และยกเอาคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง”
หรือ “Sufficiency
Economy” เป็นหนึ่งในค่านิยม (Value) ของมหาวิทยาลัย
โดยยึดเป็นฐานสำคัญในการพัฒนานิสิตให้ตรงตามอัตลักษณ์ของนิสิตมหาวิทยาลัย คือ
“นิสิตกับการช่วยเหลือสังคมและชุมชน”
สู่เป้าหมายของการผลิตบัณฑิตตามเอกลักษณ์มหาวิทยาลัย คือ
“การเป็นที่พึ่งของสังคมและชุมชน” ต่อไป
แต่ละปีการศึกษา
มหาวิทยาลัยรับนิสิตเข้าเรียนในหลักสูตรระดับปริญญาตรี ปีการศึกษาละประมาณ 10,000
คน มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและส่งเสริมให้นิสิตน้อมนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างบูรณาการ
ทั้งการจัดให้มีรายวิชาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งมีผู้ลงทะเบียนเรียนปีการศึกษาละกว่า
8,000 คน
การส่งเสริมและสนับสนุนให้นิสิตทำกิจกรรมพัฒนานิสิตโดยน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน
และการจัดกิจกรรมจากหน่วยงานของมหาวิทยาลัยเพื่อเสริมการเรียนรู้ทั้งในและนอกหลักสูตร
ดังเช่น กิจกรรมในวันนี้เป็นต้น
ความสำเร็จในวันนี้เกิดจากหลายฝ่ายทั้งจากคณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
กลุ่มนิสิตแกนนำจิตอาสา อาจารย์ผู้สอนรายวิชาศึกษาทั่วไป บุคลากรสำนักศึกษาทั่วไป
และที่สำคัญคือนิสิตผู้ลงทะเบียนเรียนรายวิชาศึกษาทั่วไปทุกคน
ที่ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำเสนอผลงาน ทำให้งานประสบความสำเร็จด้วยดี
ในโอกาสนี้ ดิฉัน มลฤดี เชาวรัตน์
รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ในนามผู้แทนนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขอต้อนรับด้วยความยินดียิ่ง
ขอบคุณค่ะ
คำกล่าวรายงาน
ผมเพิ่ง "เห็น" ตอนนี้เองว่า คำกล่าวรายงานมีประโยชน์มาก นอกจากจะเป็นประโยชน์ทางตรงเพื่อแจ้ง วัตถุประสงค์ให้ประธานรับรู้แล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ยังนำเอาเนื้อความในคำกล่าวรายงาน ไปเขียนข่าวได้อย่างฉับไวทันใจผู้ติดตามอีกด้วย ต่อไปนี้เป็นคำกล่าวรายงานโครงการนี้ครับ (ดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ)
คำกล่าวรายงาน
โครงการมหกรรมนำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง:
“ธุรกิจพอเพียง”
วันอังคารที่ 25 เมษายน 2560
ณ ห้องประชุมชั้น
5 อาคารคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
--------------------------------------
โดย รองศาสตราจารย์ ดร. เกียรติศักดิ์ ศรีประทีป ผู้อำนวยการสำนักศึกษาทั่วไป
เรียน อธิการบดี
กระผมในนามของผู้จัดโครงการขอขอบคุณท่าน ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธาน ในพิธีเปิดโครงการมหกรรมนำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง:
“ธุรกิจพอเพียง” ครั้งนี้
ตามที่สำนักศึกษาทั่วไปได้จัดการเรียนการสอนรายวิชาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ซึ่งมีนิสิตสนใจลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคการศึกษากว่า 3,500 คน มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมคุณลักษณะนิสิตที่พึงประสงค์ของหมวดวิชาศึกษาทั่วไปด้านการส่งเสริมการสร้างบัณฑิตที่มีคุณธรรมจริยธรรมในการดำเนินชีวิตบนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
โดยจัดให้มีกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ในหลักสูตรหมวดวิชาศึกษาทั่วไป
เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต
โดยเฉพาะด้านทักษะชีวิตและการประกอบอาชีพ การส่งเสริมให้นิสิตสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรม
ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญของผู้ประกอบการรายใหม่ หรือ บริษัทเปิดใหม่ (STARTUP)
ต่อไป
โครงการในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เปิดโอกาสให้นิสิตได้นำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้จากการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมงานได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต
กิจกรรมในโครงการจัดแบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกเป็นการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณศศิพร ปาณิกบุตร ผู้อำนวยการกองติดตามและประเมินผล
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน
กปร.) การกล่าวบทกวีบนเวทีจากศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ รองศาสตราจารย์
ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์ และการแสดงบนเวทีจากนิสิตจิตอาสา ศิลปิน ดารา นักร้อง
ส่วนที่ 2
เป็นตลาดนัดความรู้และการออกร้านนำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้จากกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
จำนวน 30 ผลงาน
และรายวิชาการประกอบการและการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ จากคณะบัญชีและการจัดการ จำนวน 10
ผลงาน รวมถึงการจัดนิทรรศการการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิตของนิสิต
ผู้ร่วมงานในวันนี้ประกอบด้วยนิสิตที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจำนวน
3,500
คน จัดเป็นนิสิตผู้นำเสนอผลงานประมาณ 500 คน
ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาประจำผลงานหรือนิทรรศการตลอดงาน นิสิตผู้เข้าชมผลงานฯ ประมาณ 1,500 คน และนิสิตที่เข้ารับฟังบรรยายพิเศษและการแสดงบนเวทีประมาณ 1,500 คน นอกจากนี้แล้วยังมีอาจารย์ผู้สอนรายวิชาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 28
บุคลากรสำนักศึกษาทั่วไป 10 และผู้สนใจอีกจำนวนหนึ่ง
บัดนี้
ได้เวลาอันสมควรแล้ว โครงการมหกรรมนำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง:
“ธุรกิจพอเพียง” ขอกราบเรียนเชิญครับ
คำกล่าวเปิดโครงการ
สิ่งที่เรากำลังทำตอนนี้คือ กำลังขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษบกิจพอเพียงด้านการศึกษา ซึ่งหมายถึงการพัฒนาคน และแน่นอนต้องเกี่ยวข้องกับการพัฒนาครู โดยมุ่งมั่นอยู่ในเฉพาะพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง ผมเข้าใจว่าความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้เกิดขึ้นเร็ว วิธีการทำงานแบบทำโครงการและประเมินปลายปีนั้นยากมากที่จะได้ "Good Project" (ผมเคยเขียนเกี่ยวกับ Good Project ไว้ที่นี่) ดังนั้น ไม่ว่ามุมมองของท่านอธิการจะมองว่า ลักษณะงานเช่นนี้ หรือสิ่งที่ผมพยายามเขียนเผยแพร่เหล่านี้ เป็นเพียงแต่เชิงทฤษฎี แต่ผมกลับมั่นใจว่านี่แหละคือวิธีปฏิบัติในการหนุนเสริมให้เกิดการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในตัวนิสิตหรือผู้เรียน
อย่างไรก็ดี เราก็ได้รับกำลังใจอย่างดีจากท่านอธิการที่ให้เกียรติมาเปิดงานทุกครั้ง โดยเฉพาะครั้งนี้ ที่แม้ท่านจะมีภารกิจติดงานต่อเนื่องก็ปลีกเวลามากล่าวเปิด และยังย้ำด้วยว่า ให้ทำกิจกรรมลักษณะนี้อีก ต่อไปนี้ไป ... ต่อไปนี้เป็นร่างคำกล่าวเปิด ที่ส่งให้ท่าน (ตัวอักษรขนาดเล็กเป็นส่วนที่ท่านสลับใช้การเล่าประสบการณ์ความพอเพียงของท่านแทน) (ดาวน์โหลดได้ที่นี่)
อย่างไรก็ดี เราก็ได้รับกำลังใจอย่างดีจากท่านอธิการที่ให้เกียรติมาเปิดงานทุกครั้ง โดยเฉพาะครั้งนี้ ที่แม้ท่านจะมีภารกิจติดงานต่อเนื่องก็ปลีกเวลามากล่าวเปิด และยังย้ำด้วยว่า ให้ทำกิจกรรมลักษณะนี้อีก ต่อไปนี้ไป ... ต่อไปนี้เป็นร่างคำกล่าวเปิด ที่ส่งให้ท่าน (ตัวอักษรขนาดเล็กเป็นส่วนที่ท่านสลับใช้การเล่าประสบการณ์ความพอเพียงของท่านแทน) (ดาวน์โหลดได้ที่นี่)
คำกล่าวเปิด
โครงการมหกรรมนำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง:
“ธุรกิจพอเพียง”
วันอังคารที่ 25 เมษายน 2560
ณ ห้องประชุมชั้น
5 อาคารคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
--------------------------------------
โดย ศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
เรียน ผู้อำนวยการสำนักศึกษาทั่วไป
ผู้บริหาร อาจารย์ และนิสิตทุกคน
ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานเปิดโครงการมหกรรมนำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง:
“ธุรกิจพอเพียง” ในวันนี้
เป้าหมายของการส่งเสริมการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
คือ ทำให้นิสิต บุคลากร และประชาชน มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
สามารถน้อมนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตของตนเองตามอัตภาพ
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเกี่ยวกับเฉพาะเรื่องการเกษตร
เกี่ยวกับเกษตรกรเท่านั้น ส่วนหนึ่งเข้าใจว่าเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ
เกี่ยวกับการผลิต การซื้อขายกระจายผลผลิต
ส่วนเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการประหยัดอดออม
ใช้วัสดุสิ่งของหรือวัตถุดิบจากพื้นถิ่นเท่านั้น
แต่แท้จริงแล้ว
(ท่านเล่าว่า ความพอเพียงนั้นเป็นสิ่งใกล้ตัวเรามาก เช้าวันนี้ ขณะที่จะผูกเนคไทท่านพบ "หู" ล็อคหางเนคไทขาดหายไป แทนที่จะซื้อใหม่ แต่ท่านดัดแปลงสายรัดขอบกางเกงเก่ามาใช้แทน ...นี่ก็เรียกว่าพอเพียง)
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเป็นทั้งหลักคิดและหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต
โดยยึดเงื่อนไข ๒ ประการคือ เงื่อนไขคุณธรรม และเงื่อนไขคุณธรรม
จะทำอะไรต้องไม่ผิดหลักคุณธรรมจริยธรรม สืบค้นและนำความรู้วิชาการมาใช้เสมอ
ก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง คิดพิจารณาอย่างครบถ้วนทั้ง ๓ ห่วง ว่า พอประมาณหรือไม่
มีเหตุผลมีหรือไม่ มีภูมิคุ้มกันที่ดีหรือไม่ ระหว่างกระทำและหลังกระทำ
ระลึกและกำกับให้อยู่ในเงื่อนไข ๒ และพิจารณาครอบคลุม ๔ มิติ ทั้งวัตถุ สังคม
สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยมีเป้าหมายให้เกิดความสมดุล มั่นคง และยั่งยืน
อย่างไรก็ดี
วิธีเดียวที่จะทำให้นิสิตเข้าใจได้อย่างแท้จริง คือ
การน้อมนำเอาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ในหลวงราชการที่ ๙ ทรงพระราชทานให้เรา
ไปใช้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
กิจกรรมในวันนี้ถือเป็นส่วนสำคัญหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกคน
ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสะท้อนผลการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของตน
จากการชมผลงานและการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และกิจกรรมการแสดงบนเวที
ดังที่ท่านผู้อำนวยการสำนักศึกษาทั่วไปได้กล่าวรายงาน
ในโอกาสนี้
กระผมขอขอบคุณท่านวิทยากรทุกท่านและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดโครงการในครั้งนี้
บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้วจึงขอเปิดโครงการมหกรรมนำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง:
“ธุรกิจพอเพียง” และขอให้การจัดโครงการในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงและบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ
ขอขอบคุณครับ
ปีนี้เป็นปีการศึกษาแรก ที่เราส่งเสริมให้นิสิตทดลองคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์โดยใช้วัตถุดิบในพื้นฐานชุมชน การจัดให้นิสิตได้นำเสนอผลงานและผลการเรียนรู้ปีนี้จึงไม่ได้เน้นเต็มรูปแบบ แต่จัดในลักษณะตลาดนัดความรู้ และกำหนดแรงจูงใจในหลักสูตร (คะแนนบางส่วน) ให้นิสิตได้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกันและกัน
หลังจากพิธีเปิด เราวางแผนกันว่า จะให้ประธานและแขกผู้มีเกียรติได้เดินชมผลงานของนิสิตท่จัดไว้บริเวณหน้าห้องประชุม ขอเล่าด้วยภาพด้านล่างครับ
สรุป "ธุรกิจพอเพียง" ปีนี้ เราเน้นไปที่กลไกให้นิสิตได้เริ่มคิด ลองทำ และวางระบบให้ได้นำผลงานมานำเสนอแบ่งปันกัน
ในการจัดตลาดนัดยังมีปัญหาเรื่องการจัดการผู้ชมและผู้นำเสนอ การให้นิสิตจำนวนมาก มาลงทะเบียนในสถานที่หน้าห้องประชุมนั้นไม่พอประมาณเลย เราได้เรียนรู้แล้วว่าภาคการศึกษาหน้าควรทำอย่างไร
๔) การแสดงจากนิสิตจิตอาสา
พลังของจิตอาสานี่ประมาณค่าได้ยากยิ่งครับ งานใหญ่ขนาดคนร่วมงานเป็น ๑,๐๐๐ คน ทั้งนิสิต อาจารย์ และแขกผู้มีเกียรติระดับประเทศดังที่ได้กล่าวมา แต่ใช้งบประมาณเพียง ๑๖,๐๐๐ บาทเศษ ผมตีความว่า นี่คือสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านทรงสอนพวกเรา เมื่อไหร่ที่พวกเราสามัคคี สิ่งดีที่เกินความคาดหมายแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ ๒ ห่วง ๓ เงื่อนไขครบถ้วนสมดุล นำมาสู่ความสุขสำเร็จร่วมกัน
เหตุที่ประหยัดขนาดนั้นได้เพราะ ท่านวิทยากรทั้ง ๓ ท่านจาก สำนักงาน กปร. ท่านไม่ขอรับค่าวิทยากรใด ๆ การเดินทางก็จัดการของท่านเอง อาจารย์พีรวัศ กี่ศิริ ก็มาช่วยด้วยจิตอาสา ศิลปินนิสิตจิตอาสาก็ขนอุปกรณ์มาแสดงกันด้วยแรงแห่งใจล้วน ๆ ไม่มีใครต้องการค่าตอบแทนใด ๆ เลย ... สุดยอดครับ ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ ต่อไนปี้เป็นภาพบางส่วนของศิลปินจิตอาสา ครับ
รศ.ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์
คุณสำราญ ช่วยจำแนก (อิ๊ด วงฟลาย)
นิสิตจิตอาสาจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์
กลุ่มนิสิตจิตอาสาจากวิทยาลัยดุริยางคศิปล์ มมส.
กลุ่มนิสิตจิตอาสาจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์
ผมเองไม่รู้มาก่อนว่าทุกคนจะมาร่วมกันขนาดนี้ จึงไม่ได้กำชับเรื่องประชาสัมพันธ์ให้นิสิตผู้สนใจเข้าร่วมมากนัก มุ่งตรงไปเพียงนิสิตที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชา ปศพพ. เท่านั้น อย่างไรก็ดี นิสิตบางคนที่เหมือนจะไม่เต็มใจเข้าไปชม แต่ก็นั่งชมด้วยความสนุกตลอดงาน
(โปรดติดตามตอนต่อไป... ใครอย่างได้รูปทั้งหมดคลิกที่นี่ครับ)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น