PLC_CADL_025 : AAR เพื่อพัฒนาบุคลากร GE ปี ๕๗ กลุ่มงานสารสนเทศ (๑)
วันที่ ๒๗- ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗ CADL จัดเวที KM กลุ่มสารสนเทศ ตามที่เราได้คุย BAR กันไว้ในบันทึกนี้ ครั้งนี้เราจัดเวทีที่ VAREE VALLEY HALL ใกล้ประตูทางเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพียงกิโลเมตรเดียว .... โดยภาพรวมหลายคนสะท้อนว่า บรรยากาศดี ที่พักสะอาด อาหารอร่อย บริการเป็นเยี่ยม ... ได้ใจพวกเราไปเต็มๆ เราจะกลับไปอีกครั้งสำหรับกลุ่มงานยุทธศาสตร์ละแผนฯ กลางเดือนเมษายนนี้
เริ่มกิจกรรมกันตอน ๙:๓๐ ของวันแรก และ "ปิดวง" เวลา ๑๒:๐๐ ของอีกวันหนึ่ง ละลายพฤติกรรมด้วย "แขกเปิดใจ" ท้าทายศักยภาพด้วย "สมองใส" ก่อนจะมุ่งสู่ "ตัวงาน" คือ ถอดบทประสบการณ์ที่ผ่านมา การระดม วิเคราะห์ และช่วยกันหากทางแก้ไขปัญหา และจบด้วยการช่วยกันวางแผนทำข้อตกลงร่วมกัน ว่าจะกลับไป "รัน" ยังไงต่อ
เราจัดให้มีแต่เก้าอี้ ขยับโต๊ะที่โรงแรมจัดไว้ให้ชิดผนังเพื่อน้ำหรือสิ่งของ โดยให้นั่งล้อมเป็น "วง" ที่ทุกคนมองเห็นกันได้อย่าง "เปิดเผย" (ไม่เชื่อไปลองทำดูครับ ระหว่างที่มีกับไม่มีโต๊ะกัน คนจะแบ่งปันกันมากกว่าสำหรับกรณีหลัง) ผมอยากบันทึกวิธีและขั้นตอนการทำกิจกรรมที่ผมคิดขึ้นใช้ในเวทีนี้ไว้ เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อน "กระบวนกร" ครับ
ละลายพฤติกรรมด้วยกิจกรรมแรก เรียกชื่อว่า "แขกเปิดใจ"
เริ่มด้วยการแจกกระดาษโพสท์อิตและดินสอให้ทุกคน แล้วเชิญชวนให้ออกมา "เดินปนเล่น" ใน "วง" อย่างอิสระ ก่อนจะบอก "หยุดยืน" จับคู่ผู้อยู่ใกล้ที่สุด แล้วก็พูดทักทายกันตามสบายใจ ก่อนจะให้เดินต่อ->หยุด->จับคู่ คุยกันอย่างสนุกพอสมควร
เมื่อผ่อนคลายได้ที่ ให้แต่ละคนจับคู่กับคนที่ตนไว้ใจ หรืออยากคุยด้วยมากที่สุด แล้วนั่งลงข้างๆ กัน เริ่มเล่าเรื่องประทับใจที่เคยทำให้ตนเองมีความสุข เช่น อาจเป็นตอนชีวิตไว้เด็ก ฯลฯ สักครู่ไม่ใหญ่ ๕ นาที จึงบอก "หยุดให้ความเงียบ" แล้วให้บอก "ความลับ" ที่ไม่เคยบอกใครให้กับคู่ของตนคนนั้น เมื่อได้ฟัง ให้เขียนความลับที่ได้ฟังจากเพื่อนนั้นลงในกระดาษโพสท์อิต และสลับเพื่อนเราได้เล่าบ้าง
ถึงตอนนี้ เรามีความลับของคนทุกคนที่ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นความลับใคร ขั้นต่อไปคือ ให้ทุกคนม้วนกระดาษนั้นมาไว้รวมกันใน "ขวดโหลใหญ่" ไว้จับฉลากต่อไป
การออกไปเดินเที่ยว "ตลาด" คือ การเชิญให้ทุกคนออกมาเดินอิสระอีกครั้ง แล้วเมื่อให้หยุด ก็ให้คุย "เชิงนินทา" ว่า "ฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง (ห้ามบอกชื่อ) เขาเคย...... (บอกความลับนั้น)...." แล้วให้เดินต่อ... แล้วจับคู่ครั้งสุดท้ายที่ไม่ใช่คนเดิม... แล้วก็คุยนินทางตามประสาคนเดินตลาดอีกทำนองว่า "ฉันได้ข่าวมาว่ามีคนเคย..... (บอกความลับ โดยไม่บอกชื่อ)..." ก่อนจะกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตนเอง
นำ "ขวดโหลใหญ่" มาให้จับฉลาก ให้สัญญาณเปิดพร้อมกัน แล้วแต่ละคนไปหาว่า "ใครคือเจ้าของความลับนั้นกันแน่"..... เมื่อทราบแน่แล้ว ก็ให้นั่งลง
ผมคิดว่ากิจกรรมนี้สนุกมาก (อาจจะสนุกอยู่คนเดียว..ฮา) และที่น่าประหลาดใจ คือ พวกเขาใช้เวลาเพียง "สักครู่" ทุกคนก็รู้ว่าสิ่งที่ถือในมือคือความาลับของใคร...ง
ท้าทายสมองและใจ เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ศักยภาพของตนเอง เรียก กิจกรรมที่สอง "สมองใส"
ผมปรับเอากิจกรรมที่จำมาจากหนังสือ "น่าจะรู้อย่างนี้ตอนอายุ ๒๐ ปี" ตั้งเป็นกติกาให้ท้าทายบุคลากร GE แต่ละกลุ่ม (สามกลุ่มๆ ละ ๕ คน) ให้หาเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อนำมาพัฒนา GE โดยเริ่มต้นด้วยเงินเพียง ๕๐๐ บาท และให้เวลาเพียง ๑ เดือน ดังสไลน์
กิจกรรมนี้ทำให้ทุกคนสนุกมาก ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างลงตัวมาก ทั้งบุคลากรผู้นำเสนอ และผู้บริหาร หัวหน้าสำนักงาน ที่ทำหน้าที่คอยซักถามตรวจสอบ ...
กลุ่มแรกบอกว่า จะเอาเงิน ๕๐๐ บาทไปลงทุนขายน้ำหน้าตึก RN ตั้งแต่ ๙ โมงจนถึงเย็น คำนวณ (แบบไม่คิดค่าแรง) แล้วได้กำไรถึง ๕,๘๕๐ บาท
กลุ่มที่สองบอกว่าจะไปเปิดร้านขายเสื้อผ้า Dress & Chic Boutique โดยจะไปซื้อเสื้อต้นทุนตัวละ ๖๐ บาท มาขายบวกกำไรตัวละ ๘๐ บาท ด้วยเงินทุน+กำไร อาทิตย์ถัดไปจะซื้อได้มากขึ้น ภายในหนึ่งเดือนจะมีกำไรถึง ๗,๓๘๐ บาท เวลาขายคือหลังเลิกงาน สถานที่คือตลาดนัดคลองถม หรือที่ต่างๆ โดยต้องช่วยกันขายให้ได้ทั้งหมด .... การสอบถามกันไปมาในกลุ่ม ทำให้ได้แต่ละคนเรียนรู้อย่างสบาย ผ่อนคลาย สนุก ....
กลุ่มต่อมาบอกว่า จะส่งน้ำดื่ม ใช้เงิน ๕๐๐ บาท เป็นค่าน้ำมันรถเริ่มต้นของการส่งน้ำดื่ม โดยไปรับจากโรงงานถังละ ๗ บาท แล้วนำไปส่งถังละ ๑๐ บาท มีสองสายส่ง แต่ละสายจะไปส่ง ๒ ครั้งๆ ละ ๑๐๐ ถัง คิดเป็นกำไรทันที ๖๐๐ บาท พอสิ้นเดือน กลุ่มนี้จะมีเงินกำไรถึง ๒๔,๐๐๐ ... ยิ่งกลุ่มนี้ยิ่งตั้งคำถามกันสนุก เช่น ... จะไปแยกตลาดเดิมเขาได้อย่างไร.. จะใช้รถที่ไหน ใครจะเป็นคนขับ... ฯลฯ
เริ่มกิจกรรมกันตอน ๙:๓๐ ของวันแรก และ "ปิดวง" เวลา ๑๒:๐๐ ของอีกวันหนึ่ง ละลายพฤติกรรมด้วย "แขกเปิดใจ" ท้าทายศักยภาพด้วย "สมองใส" ก่อนจะมุ่งสู่ "ตัวงาน" คือ ถอดบทประสบการณ์ที่ผ่านมา การระดม วิเคราะห์ และช่วยกันหากทางแก้ไขปัญหา และจบด้วยการช่วยกันวางแผนทำข้อตกลงร่วมกัน ว่าจะกลับไป "รัน" ยังไงต่อ
เราจัดให้มีแต่เก้าอี้ ขยับโต๊ะที่โรงแรมจัดไว้ให้ชิดผนังเพื่อน้ำหรือสิ่งของ โดยให้นั่งล้อมเป็น "วง" ที่ทุกคนมองเห็นกันได้อย่าง "เปิดเผย" (ไม่เชื่อไปลองทำดูครับ ระหว่างที่มีกับไม่มีโต๊ะกัน คนจะแบ่งปันกันมากกว่าสำหรับกรณีหลัง) ผมอยากบันทึกวิธีและขั้นตอนการทำกิจกรรมที่ผมคิดขึ้นใช้ในเวทีนี้ไว้ เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อน "กระบวนกร" ครับ
ละลายพฤติกรรมด้วยกิจกรรมแรก เรียกชื่อว่า "แขกเปิดใจ"
เริ่มด้วยการแจกกระดาษโพสท์อิตและดินสอให้ทุกคน แล้วเชิญชวนให้ออกมา "เดินปนเล่น" ใน "วง" อย่างอิสระ ก่อนจะบอก "หยุดยืน" จับคู่ผู้อยู่ใกล้ที่สุด แล้วก็พูดทักทายกันตามสบายใจ ก่อนจะให้เดินต่อ->หยุด->จับคู่ คุยกันอย่างสนุกพอสมควร
เมื่อผ่อนคลายได้ที่ ให้แต่ละคนจับคู่กับคนที่ตนไว้ใจ หรืออยากคุยด้วยมากที่สุด แล้วนั่งลงข้างๆ กัน เริ่มเล่าเรื่องประทับใจที่เคยทำให้ตนเองมีความสุข เช่น อาจเป็นตอนชีวิตไว้เด็ก ฯลฯ สักครู่ไม่ใหญ่ ๕ นาที จึงบอก "หยุดให้ความเงียบ" แล้วให้บอก "ความลับ" ที่ไม่เคยบอกใครให้กับคู่ของตนคนนั้น เมื่อได้ฟัง ให้เขียนความลับที่ได้ฟังจากเพื่อนนั้นลงในกระดาษโพสท์อิต และสลับเพื่อนเราได้เล่าบ้าง
ถึงตอนนี้ เรามีความลับของคนทุกคนที่ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นความลับใคร ขั้นต่อไปคือ ให้ทุกคนม้วนกระดาษนั้นมาไว้รวมกันใน "ขวดโหลใหญ่" ไว้จับฉลากต่อไป
การออกไปเดินเที่ยว "ตลาด" คือ การเชิญให้ทุกคนออกมาเดินอิสระอีกครั้ง แล้วเมื่อให้หยุด ก็ให้คุย "เชิงนินทา" ว่า "ฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง (ห้ามบอกชื่อ) เขาเคย...... (บอกความลับนั้น)...." แล้วให้เดินต่อ... แล้วจับคู่ครั้งสุดท้ายที่ไม่ใช่คนเดิม... แล้วก็คุยนินทางตามประสาคนเดินตลาดอีกทำนองว่า "ฉันได้ข่าวมาว่ามีคนเคย..... (บอกความลับ โดยไม่บอกชื่อ)..." ก่อนจะกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตนเอง
นำ "ขวดโหลใหญ่" มาให้จับฉลาก ให้สัญญาณเปิดพร้อมกัน แล้วแต่ละคนไปหาว่า "ใครคือเจ้าของความลับนั้นกันแน่"..... เมื่อทราบแน่แล้ว ก็ให้นั่งลง
ผมคิดว่ากิจกรรมนี้สนุกมาก (อาจจะสนุกอยู่คนเดียว..ฮา) และที่น่าประหลาดใจ คือ พวกเขาใช้เวลาเพียง "สักครู่" ทุกคนก็รู้ว่าสิ่งที่ถือในมือคือความาลับของใคร...ง
ท้าทายสมองและใจ เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ศักยภาพของตนเอง เรียก กิจกรรมที่สอง "สมองใส"
ผมปรับเอากิจกรรมที่จำมาจากหนังสือ "น่าจะรู้อย่างนี้ตอนอายุ ๒๐ ปี" ตั้งเป็นกติกาให้ท้าทายบุคลากร GE แต่ละกลุ่ม (สามกลุ่มๆ ละ ๕ คน) ให้หาเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อนำมาพัฒนา GE โดยเริ่มต้นด้วยเงินเพียง ๕๐๐ บาท และให้เวลาเพียง ๑ เดือน ดังสไลน์
กิจกรรมนี้ทำให้ทุกคนสนุกมาก ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างลงตัวมาก ทั้งบุคลากรผู้นำเสนอ และผู้บริหาร หัวหน้าสำนักงาน ที่ทำหน้าที่คอยซักถามตรวจสอบ ...
กลุ่มแรกบอกว่า จะเอาเงิน ๕๐๐ บาทไปลงทุนขายน้ำหน้าตึก RN ตั้งแต่ ๙ โมงจนถึงเย็น คำนวณ (แบบไม่คิดค่าแรง) แล้วได้กำไรถึง ๕,๘๕๐ บาท
กลุ่มที่สองบอกว่าจะไปเปิดร้านขายเสื้อผ้า Dress & Chic Boutique โดยจะไปซื้อเสื้อต้นทุนตัวละ ๖๐ บาท มาขายบวกกำไรตัวละ ๘๐ บาท ด้วยเงินทุน+กำไร อาทิตย์ถัดไปจะซื้อได้มากขึ้น ภายในหนึ่งเดือนจะมีกำไรถึง ๗,๓๘๐ บาท เวลาขายคือหลังเลิกงาน สถานที่คือตลาดนัดคลองถม หรือที่ต่างๆ โดยต้องช่วยกันขายให้ได้ทั้งหมด .... การสอบถามกันไปมาในกลุ่ม ทำให้ได้แต่ละคนเรียนรู้อย่างสบาย ผ่อนคลาย สนุก ....
กลุ่มต่อมาบอกว่า จะส่งน้ำดื่ม ใช้เงิน ๕๐๐ บาท เป็นค่าน้ำมันรถเริ่มต้นของการส่งน้ำดื่ม โดยไปรับจากโรงงานถังละ ๗ บาท แล้วนำไปส่งถังละ ๑๐ บาท มีสองสายส่ง แต่ละสายจะไปส่ง ๒ ครั้งๆ ละ ๑๐๐ ถัง คิดเป็นกำไรทันที ๖๐๐ บาท พอสิ้นเดือน กลุ่มนี้จะมีเงินกำไรถึง ๒๔,๐๐๐ ... ยิ่งกลุ่มนี้ยิ่งตั้งคำถามกันสนุก เช่น ... จะไปแยกตลาดเดิมเขาได้อย่างไร.. จะใช้รถที่ไหน ใครจะเป็นคนขับ... ฯลฯ
กลุ่มสุดท้ายบอกว่า จะขาย "โปรแกรม (Softwares)" ที่บุคลากรของสำนักศึกษาทั่วไปพัฒนาขึ้น ค่าว่าจะได้กำไรตั้งแต่ ๒๐,๐๐๐ ถึง ๕๐๐,๐๐๐ บาท แล้วแต่ว่าจะขายได้กี่โปรแกรม โดยใช้เงิน ๕๐๐ เป็นเพียงค่าเอกสารแผ่นพับ โปสเตอร์ ประชาสัมพันธ์เท่านั้น นอกนั้นใช้ทรัยกรที่มีอยู่แล้วและเป็นจุดเด่นของ GE ที่มีโปรแกรมเมอร์มือฉมังหลายคน...
ตอนท้ายของกิจกรรม เราเปิดโอกาสให้หลายคนได้สะท้อน (Reflection) ว่า กิจกรรมนี้ทำให้เราได้เรียนรู้และรู้จักตนเองอย่างไรบ้าง ก่อนจะสรุปว่า " ทุกคนมุ่งเป้าผิด" ลืมคิดไปว่า ทำไมเราต้องหาเงินให้ได้มากๆ ซึ่งได้กำหนดไว้ตั้งแต่แรกให้ "หาเงิน เพื่อมาพัฒนา GE" นั่นหมายถึง "เป้าหมายปลายทาง" จริงๆ คือ "พัฒนา GE" การ "หาเงินให้ได้มากๆ" เปรียบเหมือน "เป้าหมายรายทาง" ซึ่งเป็นเหมือนวิธีการหรือแนวทางของผู้บริหารที่ "สั่งการ (แบบจำกัด)" (top-down) ลงมาว่า จะต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งถ้าบุคลากรทุกคน มุ่งแต่ทำหน้าที่ตามคำสั่งโดยไม่ได้ "ฟัง" และ "คิด" ให้เข้าใจถึงว่า "ทำไมต้องมี หน้าที่นั้นๆ" ก็อาจจะเป็นเหมือนบุคลากรเราในคราวนี้ ที่จะออกไป ขายน้ำ ขายเสื้อผ้า ฯลฯ โดยลืมไปว่า อาจกระทบเวลากับงานของสำนักฯ ทำให้ GE เสียหลักได้...ฮา
พักรับประทานอาหารเที่ยง ก่อนจะกลับมา "ถกเถียง" เรื่องงาน ซึ่งจะมาบันทึกต่อไปครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น