รายวิชาศึกษาทั่วไป : ๐๐๓๖๐๐๖ ภาวะผู้นำ ๒-๒๕๕๙ (๑๔) : เรียนรู้แต่ละก้าวย่างสู่เส้นทางผู้นำ จาก นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม
วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๐ วันเดียวกับที่สำนักศึกษาทั่วไปเรียนเชิญท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามมาบรรยายพิเศษ หัวเรื่อง "แต่ละก้าวย่างสู่เส้นทางผู้นำสังคม" (ผมถอดบทเรียนจากการฟังท่านไว้ที่นี่) ท่านนายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ก็ให้เกียรติและเมตตามาบรรยายในหัวข้อดังกล่าวเช่นกัน ... ท่านทั้งสองสวนทางกันตอนเราไปส่งท่านผู้ว่าที่หน้าลิฟท์
ผมตีความจากสิ่งที่ท่านเล่าให้ฟังว่า สิ่งที่ทำให้ท่านประสบความสำเร็จในชีวิตและสามารถช่วยเหลือสังคมและชุมชนได้มาก คือประสบการณ์จากการเป็นผู้นำนักศึกษา ท่านเป็นประธานสโมสรนิสิตแพทย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นตอนสมัยเรียนหมอ
ท่านเล่าว่า เรียนจบหมอใหม่ ๆ เขาแต่งตั้งให้เป็นหมอใหญ่ประจำโรงพยาบาลเลย การทำงานอย่างเต็มที่ ปรับตัวให้เข้ากับคนในชุมชน พูดภาษาอีสานกับคนไข้ ประสบการณ์ตอนทำกิจกรรมนักศึกษา ทำให้ท่านสามารถเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาได้ราบรื่น เป็นที่ประทับใจของคนในชุมชน การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตอนที่ท่านมาเป็นหมอที่โรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม คนที่เกิดในจังหวัดมหาสารคามส่วนใหญ่ ท่านเป็นหมอทำคลอดให้เกือบทุกคน ... ทุก ๆ ที่ท่านเคยไปประจำอยู่ (รพ.กาฬสินธุ์ รพ.ยางตลาด รพ.มหาสารคาม) ต่างชูนิ้วหัวแม่มือให้เสมอเมื่อพูดถึงท่าน
ต่อมาพอมีความจำเป็นต้องลาออกไปช่วยเหลือครอบครัว ต้องผันตัวเองไปเป็นพ่อค้า ท่านก็สามารถแก้ปัญหาหนี้สินกว่าร้อยล้านและทำให้มหาสารคามมีห้างสรรพสินค้ามาตรฐานทัดเทียมจังหวัดใหญ่ ๆ ใกล้เคียง (ท่านเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าเสริมไทย) ทำให้ลูกหลานคนมหาสารคามมีงานทำในพื้นที่เป็นจำนวนมาก
สมัยนายกเทศมนตรียิ่งยศ อุดรพิมพ์ ท่านได้รับการทาบทามให้ไปช่วยเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม เริ่มต้นเส้นทางสู่การเมืองเป็นผู้นำท้องถิ่นจนถึงปัจจุบัน ผมเองมาเป็นเขยมหาสารคามตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ เห็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและงานของเมืองอย่างเป็นระบบ ริมคลองสมถวิลเปลี่ยนไป ปัญหาน้ำท่วมไม่มี มีกิจกรรมสืบสานงานวัฒนธรรมดี ๆ อย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะโรงเรียนเทศบาลเมืองมหาสารคาม ที่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มที่ (อ่านต่อจากบล็อค PLC เทศบาลเมืองมหาสารคามที่นี่)
สรุปคือไม่ว่าจะเป็นหมอ เป็นพ่อค้า และมาเป็นผู้นำทางการเมือง ก็ประสบผลสำเร็จทุกอย่าง สิ่งที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จคือ "เก่งคน" (Soft Skills) ซึ่งท่านได้ฝึกฝนมาตั้งแต่เป็นผู้นำนักศึกษา ทำกิจกรรมนักศึกษามาอย่างต่อเนื่อง
ท่านบอกว่า การเป็นผู้นำต้องเก่งทั้งบู๊และบุ๋น บุ๋นคือต้องเก่งความรู้ เก่งวิชาการ ต้องแม่นยำ บู๊คือต้องลงมือปฏิบัติทำด้วยตนเอง และสำคัญคือต้องมีใจให้คนอื่น การจัดการต้องเก่ง
องค์ความรู้ที่ท่านได้บรรยาย หลังจากฝ่ายตัดต่อวีดีโอจัดการแล้วเสร็จ ผมจะนำมาถอดบทเรียนไว้อีกครั้งนหนึ่งในบันทึกต่อ ๆ ไปครับ
ตอนท้ายท่านมอบค่าวิทยากรให้เราไปใช้ทำกิจกรรมส่งเสริมนิสิตต่อไป ขอขอบพระคุณท่านอีกครั้งหนึ่งครับ
ผมตีความจากสิ่งที่ท่านเล่าให้ฟังว่า สิ่งที่ทำให้ท่านประสบความสำเร็จในชีวิตและสามารถช่วยเหลือสังคมและชุมชนได้มาก คือประสบการณ์จากการเป็นผู้นำนักศึกษา ท่านเป็นประธานสโมสรนิสิตแพทย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นตอนสมัยเรียนหมอ
สมัยนายกเทศมนตรียิ่งยศ อุดรพิมพ์ ท่านได้รับการทาบทามให้ไปช่วยเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม เริ่มต้นเส้นทางสู่การเมืองเป็นผู้นำท้องถิ่นจนถึงปัจจุบัน ผมเองมาเป็นเขยมหาสารคามตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ เห็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและงานของเมืองอย่างเป็นระบบ ริมคลองสมถวิลเปลี่ยนไป ปัญหาน้ำท่วมไม่มี มีกิจกรรมสืบสานงานวัฒนธรรมดี ๆ อย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะโรงเรียนเทศบาลเมืองมหาสารคาม ที่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มที่ (อ่านต่อจากบล็อค PLC เทศบาลเมืองมหาสารคามที่นี่)
สรุปคือไม่ว่าจะเป็นหมอ เป็นพ่อค้า และมาเป็นผู้นำทางการเมือง ก็ประสบผลสำเร็จทุกอย่าง สิ่งที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จคือ "เก่งคน" (Soft Skills) ซึ่งท่านได้ฝึกฝนมาตั้งแต่เป็นผู้นำนักศึกษา ทำกิจกรรมนักศึกษามาอย่างต่อเนื่อง
ท่านบอกว่า การเป็นผู้นำต้องเก่งทั้งบู๊และบุ๋น บุ๋นคือต้องเก่งความรู้ เก่งวิชาการ ต้องแม่นยำ บู๊คือต้องลงมือปฏิบัติทำด้วยตนเอง และสำคัญคือต้องมีใจให้คนอื่น การจัดการต้องเก่ง
องค์ความรู้ที่ท่านได้บรรยาย หลังจากฝ่ายตัดต่อวีดีโอจัดการแล้วเสร็จ ผมจะนำมาถอดบทเรียนไว้อีกครั้งนหนึ่งในบันทึกต่อ ๆ ไปครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น