PLC_CADL_036 : วางวิธีปฏิบัติ "จัดการกับปัญหา" (๓) "คลีนิค GE"
ในเวทีสัมมนากลุ่มงานวิชาการที่เขื่อนลำปาว กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาก มีข้อเสนอแนะจากบุคลากร เพื่อจะสร้างความประทับใจให้ผู้บริการ ในที่นี้คือนิสิตและอาจารย์ผู้สอน สำหรับคณาจารย์ อยากจะทำห้องรับรองอาจารย์ผู้สอน และสำหรับนิสิตคือ "คลีนิค GE" อ่านสรุปข้อเสนอแนะได้ที่นี่
ตามที่ได้ "ฟัง" ความคิดรวบยอดนี้เกิดขึ้นจากความพยายามที่จะจัดการปัญหาที่นิสิตขาดความรู้ ความเข้าใจ และไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในเรื่องการลงทะเบียน ซึ่งส่งผลให้จำนวนนิสิตที่ "walk in" มีจำนวนมาก เรียกกันว่า "ช่วง Peak" ๒ สัปดาห์ช่วงต้นภาคเรียน KM-กลุ่มงานวิชาการจึงเสนอว่า ควรจะมี "หมอ" มารักษาอาการป่วยนี้ จึงต้องมี "คลีนิค GE"
กลุ่มย่อยที่ ๓ ในการ KM-รวมกลุ่มงาน (วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗) เป็นการระดมสมองของกลุ่มงานวิชาการโดยไม่มีบุคลากรจากกลุ่มงานอื่นไปร่วม ซึ่งความจริงก็ไม่แปลกนัก เพราะงานวิชาการเป็นงานหลักที่ทุกฝ่ายต้องให้การสนับสนุน ดังนั้นหาก "GE คลีนิค" มีแผนการที่ชัดเจน ผู้บริหารก็เพียงสั่งการ สั่งซื้อ สั่งงาน ตามเสนอเท่านั้น ผลสรุปแสดงดังภาพนี้ครับ
สังเกตว่า ความคิดรวบยอดของ "คลีนิค GE" เป็นการ "เข้าไปช่วย"คือ "ให้บริการ" ส่วนสำคัญก็ยังคงอยู่ที่ "ผู้ให้บริการ" ซึ่งมีเป้าหมายที่จะ "ให้" นิสิตช่วยงานเองก็จะมาช่วยกดบัตรคิว และกลั่นกรองผู้มารับบริการ ก็ยังเป็นมิติของการ "ช่วย" และ "ทำให้" ซึ่งตรงนี้น่าจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนนัก
ผมเสนอว่า "GE คลีนิค" ควรทำหน้าที่หลักๆ ๓ ประการ ได้แก่ เป็นแหล่งจัดการงานทะเบียนด้วยตนเอง เป็นแหล่งเรียนรู้ และสุดท้ายคือ เป็น "คลีนิค"
ดูรูปทั้งหมดที่นี่ครับ
ตามที่ได้ "ฟัง" ความคิดรวบยอดนี้เกิดขึ้นจากความพยายามที่จะจัดการปัญหาที่นิสิตขาดความรู้ ความเข้าใจ และไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในเรื่องการลงทะเบียน ซึ่งส่งผลให้จำนวนนิสิตที่ "walk in" มีจำนวนมาก เรียกกันว่า "ช่วง Peak" ๒ สัปดาห์ช่วงต้นภาคเรียน KM-กลุ่มงานวิชาการจึงเสนอว่า ควรจะมี "หมอ" มารักษาอาการป่วยนี้ จึงต้องมี "คลีนิค GE"
กลุ่มย่อยที่ ๓ ในการ KM-รวมกลุ่มงาน (วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗) เป็นการระดมสมองของกลุ่มงานวิชาการโดยไม่มีบุคลากรจากกลุ่มงานอื่นไปร่วม ซึ่งความจริงก็ไม่แปลกนัก เพราะงานวิชาการเป็นงานหลักที่ทุกฝ่ายต้องให้การสนับสนุน ดังนั้นหาก "GE คลีนิค" มีแผนการที่ชัดเจน ผู้บริหารก็เพียงสั่งการ สั่งซื้อ สั่งงาน ตามเสนอเท่านั้น ผลสรุปแสดงดังภาพนี้ครับ
- มีการกำหนดเวลาปิดเปิดชัดเจน อาทิตย์ละ ๔ ช่วงเวลาๆ ละ ๒ ชั่วโมง สาเหตุที่กำหนดแบบนี้ เพราะต้องการให้สอดคล้องและพอดีกับ จำนวนบุคลากรของงานวิชาการและตารางเวลาของแต่ละคน
- และกำหนดให้นิสิตนัดหมายออนไลน์ เหมือนกับนัด "หมอ" ไม่ต้องมารอเสียเวลา
- มีการคุยถึงการนำข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามออนไลน์ มาแบ่งหมวดหมู่จัดประเภท เพื่อใช้ในการพิจารณาว่า "หมอ" ควรจะเป็นใคร "จะได้รักษาได้ถูกโรค".... คิดละเอียดมาก
- จ้างนิสิตช่วยงานมาอยู่ประจำ "คลีนิค" ๑ คน โดยจะให้มีหน้าที่ ช่วยกดบัตรคิว คัดกรองผู้มารับบริการ และแนะนำเอกสารที่เกี่ยวข้อง
สังเกตว่า ความคิดรวบยอดของ "คลีนิค GE" เป็นการ "เข้าไปช่วย"คือ "ให้บริการ" ส่วนสำคัญก็ยังคงอยู่ที่ "ผู้ให้บริการ" ซึ่งมีเป้าหมายที่จะ "ให้" นิสิตช่วยงานเองก็จะมาช่วยกดบัตรคิว และกลั่นกรองผู้มารับบริการ ก็ยังเป็นมิติของการ "ช่วย" และ "ทำให้" ซึ่งตรงนี้น่าจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนนัก
ผมเสนอว่า "GE คลีนิค" ควรทำหน้าที่หลักๆ ๓ ประการ ได้แก่ เป็นแหล่งจัดการงานทะเบียนด้วยตนเอง เป็นแหล่งเรียนรู้ และสุดท้ายคือ เป็น "คลีนิค"
- เป็นแหลังจัดการงานทะเบียนด้วยตนเองได้ หมายถึง ต้องมีคอมพิวเตอร์-อินเตอร์เน็ตพร้อม เพื่ออำนวยความสะดวกให้นิสิตสามารถลงทะเบียนผ่านระบบด้วยตนเอง โดยพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปแบบ Wizard (วิชาร์ด) ที่สามารถนำข้อมูลความต้องการของนิสิต ไปประมวลผลแล้วเสนอทางเลือกเป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งความจริงนิสิตสามารถทำผ่านอินเตอร์เน็ตที่ใดก็ได้ แต่สำหรับผู้ป่วยที่มาที่นี่ จะมีนิสิตช่วยงานคอยแนะนำเป็น "โค๊ช" ช่วยแนะนำบ้าง ... แต่เน้นว่าต้องให้ได้เรียนรู้ด้วยตนเองพอสมควร กล่าวคือ ต้องให้ "นิสิตเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้"
- เป็นแหล่งเรียนรู้ หมายถึง นิสิตจะสามารถได้เรียนรู้ภาพรวมทั้งหมดของ "รายวิชาศึกษาทั่วไป" ทั้งตั้งแต่ ปรัชญา รายวิชา โดยเน้นการจัดสื่อ หนังสือ สื่อการเรียนการสอน วีดีทัศน์ หนังภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์และจรรโลงสังคม และอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดทั้งบรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนรู้ทั้งด้วยตนเองจากการอ่าน ค้น และการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม อภิปราย หรือมาจัดกิจกรรมได้ เป็นต้น
- การเป็น "คลีนิค" ก็เป็นไปตามแนวคิดที่ทางบุคลากรเสนอแล้วข้างต้น
ดูรูปทั้งหมดที่นี่ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น