PLC_CADL_045 : การบรรยายพิเศษของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (๑)

วันอาทิตย์ที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๘ CADL เรียนเชิญ อาจารย์ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา มาบรรยายพิเศษเรื่อง "วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต" ณ ห้องประชุมคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นับเป็นหนึ่งในความพยายามของสำนักศึกษาทั่วไป ที่จะส่งเสริมให้นิสิตเป็นผู้ "รู้รอบ รู้กว้าง รู้จักตนเอง เข้าใจผู้อื่น สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ และดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข" ผู้เข้าร่วมฟังบรรยายเป็นนิสิตประมาณ ๑,๘๐๐ คน เป็นอาจารย์ ครู ศึกษานิเทศก์ นักเรียน และบุคคลทั่วไป รวมทั้งหมดน่าจะเกือบประมาณ ๒,๐๐๐ คน

เราเก็บรายละเอียดการบรรยายของท่านและบันทึกคลิปวีดีโอ อีกทั้งมีการถ่ายทอดสดทาง website ของสำนักคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีระบบบันทึกลงใน Youtube อัตโนมัติ และท่านสามารถดูย้อนหลังทั้งหมดได้ที่นี่ 

หลังการฟังบรรยาย ผม ALR (After Learning Review) ว่า ตนเองได้เรียนรู้คำสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้นทั้งมิติขยายรอบ ทะลายกรอบความคิดเดิมออกไป และมิติความลึกคือซาบซึ้งและเชื่อมโยงมากขึ้น ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่นำมาเสริมคำอธิบาย และการ "ฟันธง" ทำนายของท่าน คือสิ่งที่ผมอยากนำมาแบ่งปันในบันทึกนี้

เพิ่งรู้ว่าเมืองไทยน่าอยู่แค่ไหน 

ใครที่เคยไปตกระกำลำบาก หรือต้องจากเมืองไทย ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศนานๆ จะไม่ปฏิเสธเลยว่า "เมืองไทย น่าอยู่ที่่สุดในโลก" แม้ผลสำรวจจะบอกว่าความสุขของคนไทยจะอยู่ในอันดับที่ ๓๖ ของโลก และอันดับ ๒ ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ (อ่านที่นี่)  แต่เมื่อฟังบรรยายของอาจารย์ ดร.อาจอง ผมเชื่อว่าทุกคนคงบอกว่า  "ใช่" เมืองไทยคือสถานที่ๆ ใครๆ ก็อยากจะมาอยู่  ลองสังเกต Ring of Fire (วงแหวนแห่งไฟบรรลัยกัลป์) ดังภาพ

(ที่มา : http://www.greenspeardesign.com/illustration.html)

ท่านบอกว่า
  • ท่านบอกว่า ตอนนี้ชาวฟิลิปปินส์กำลังเรียนภาษาไทยกันใหญ่ และอยากมาอยู่เมืองไทยมาก เพราะบ้านเขาเจอแต่พายุและแผ่นดินไหว เนื่องจากอยู่ในบริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก Eurasian Plate และ Pacific Plate และบ้านเขาใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมาก จึงถือโอกาสว่าจะมาเป็นครูสอนภาษาฯ เมื่อเปิดประชาคมอาเซียน 
  • พม่าหรือเมียงม่า ก็อยู่ใกล้รอยต่อ Eurasian เหมือนกัน มีประวัติเแผ่นดินไหว (จุดสีน้ำเงิน) คนพม่าเองก็เข้ามาทำงานเมืองไทยเยอะ และกำลังมาเรื่อยๆ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเปิดประชาคมอาเซียน 
  • อินโอนีเซีย ที่มีประชากรมาสุด ก็อยู่ใกล้บนรอยต่อระหว่าง Indo-Australian Plate กับ Pacific Plate เกิดแผ่นดินไหว คนตายเยอะ และบ่อยๆ  จึงเริ่มทะยอยจะหาที่อยู่ใหม่  จะไปอยู่มาเลเซีย ก็มีกฎเกณฑ์มากมาย ไม่เหมือนเมืองไทยที่มีอิสระเสรี ผู้คนใจดีเอื้อเฟื้อ ยิ้มแย้มแจ่มใส... จึงอยากจะมาอยู่เมืองไทยเช่นกัน...
  • เวียดนาม ไม่มีแผ่นดินไหวก็จริง แต่หากเปรียบเทียบพายุฝนที่ต้องรับกับอ่าวไทยแล้ว ใครๆ ก็ว่าเมืองไทยดีกว่า ....
  • สิงคโปร์ไม่ต้องพูดถึง แม้จะเจริญเรียบร้อยรุ่งเรือง แต่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ และค่าครองชีพแสนแพง 
เพียงเหตุผลที่ท่านว่ามาเท่านี้ ผมก็เห็นดีกับท่านด้วยครับ ว่า "เมืองไทยน่าอยู่ที่สุดในโลก" ...

ทำนายว่าญี่ปุ่นจะเริ่มจมหายไปหลังจากนี้อีก ๒๐ ปี

อาจารย์ ดร.อาจอง ทำนายแบบ "ฟันธง" ในการบรรยาย ว่า หลังจากนี้อีก ๒๐ ปี ประเทศญี่ปุ่นจะค่อยๆ จมหายไป  โดยอธิบายถึงต้นเหตุว่า
  • ในช่วงชีวิตของท่านที่ผ่านมา (๗๕ ปี) ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ๒๐ เซนติเมตร  เหตุเนื่องจากภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งละลาย ทำให้มหาสุมทรมีน้ำหนักเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โลกที่กำลังหมุน ต้องปรับตัวเพื่อรักษาสมดุลใหม่ ทำให้แผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นเคลื่อนที่ ประเทศญี่ปุ่นอยู่ตั้งอยู่บนแผ่น Eurasian ที่กำลังเคลื่อนชนกันกับแผ่น Pacific จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องจมไปในที่สุด 
  • ญี่ปุ่นมีภูมิประเทศเป็นภูเขา ๘๐ เปอร์เซนต์ อยู่บนแผ่น Eurasian ในขณะที่ขอบของแผ่น Pacific อยู่ในบริเวณทะเลที่ลึกที่สุด  การชนแบบ "เซิ้ง" หรือ "งัด" (สำนวนผมเอง) แบบนี้ จึงทำให้โอกาสที่จะจมหายไปมีได้สูง...  
  • ท่านบอกว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเองก็คงรู้แล้ว และเริ่มเตรียมการเรื่องนี้ ...  ฟังถึงตรงนี้ ใจผมคิดไปถึงตอนที่ วิทยากรระดับประเทศท่านหนึ่ง ที่สำนักศึกษาทั่วไป เชิญมาให้พาทำแผนยุทธศาสตร์ฯ  บอกว่า  ประเทศญี่ปุ่นทำแผนยุทธศาสตร์ ๒๐๐ ปีแล้ว... สงสัยจริงๆ ว่าคนญี่ปุ่นทั้งประเทศจะอพยพไปอยู่ตรงไหน ที่แน่ๆ คงมาประเทศไทยไม่น้อย 
แนะนำว่าประเทศไทยต้องสร้างเขื่อนกั้นน้ำเค็มตลอดแนว 

การทำนายอีกอย่างของท่าน ที่ต้องบอกว่า "น่ากลัว" ความจริงต้องบอกว่า "ต้องตื่นตัว" และเตรียมรับสถานการณ์ คือ
  • การหนุนสูงของน้ำทะเลตรงอ่าวไทย อาจส่งผลให้ชาวนาภาคกลางปลูกข้าวไม่ได้ ท่านแนะนำว่า ประเทศไทยควรสร้างเขื่อนตลอดแนวเพื่อป้องกันน้ำทะเล 
  • เหมือนประเทศเนเธอแลนด์ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล แต่เข้าสร้างเขื่อนป้องกันแล้วใช้พลังงานลมหมุนกังหันปั่นสูบน้ำออกตลอดเวลา 
  • ท่านบอกว่า ประเทศสิงคโปร์ เริ่มเตรียมและสร้างเขื่อนแล้ว 
อย่างไรก็ดี ท่านพูดอย่างเน้นย้ำหลายครั้งว่า เราเรียนวิทยาศาสตร์ เราต้องไม่เชื่อ ต้องฟังแล้ววิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล แล้วใช้วิจารณญานของตนพิจารณาเอง...

วันนี้ขอจบที่นะครับ 
บันทึกต่อไป จะมาเล่าให้ฟังในมิติภายใน ที่ผมคิดว่า เป็น "หัวใจหลัก" ที่ท่านอยากจะบอกเราในการบรรยายครั้งนี้







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

PLC มหาสารคาม : อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ (ขยายผลครูตุ๋ม) _๔ :ขยายความสำเร็จสู่ สพป.มค.๑

รายวิชาศึกษาทั่วไป : ๐๐๓๖๐๐๖ ภาวะผู้นำ ๑-๒๕๖๐ (๑๐) กิจกรรม After Action Review (AAR)

PLC อบจ. ขอนแก่น _๐๔ : ถอดบทเรียน "การแก้ปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้"